ข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า

ข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับบุหรี่ธรรมดากันก่อนดีกว่า บุหรี่ ถือเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่พิษภัยของมันนั้นร้ายแรงเสียเหลือเกิน เนื่องจากภายในมวนบุหรี่นั้นประกอบไปด้วยสารนิโคติน ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดการเสพติด มีอำนาจในการเสพติดเทียบเท่ากับเฮโรอีน ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง และหัวใจทำให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้มีความดันโลหิตสูงขึ้น ในทางการแพทย์ การเสพติดสารนิโคติน ถูกจัดเป็นโรคเรื้อรังอย่างหนึ่งด้วย

สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า เป็นยาสูบแบบใหม่ที่จะใช้หลักการระเหยของสารนิโคตินเหลวด้วยความร้อนจากไฟฟ้า ไม่ใช่การเผาไหม้เหมือนกับบุหรี่แบบทั่วไป ทำให้ผู้สูบลดความเสี่ยงที่จะได้รับสารที่เป็นอันตรายต่อปอด เช่น น้ำมันดินหรือทาร์ และคาร์บอนมอนอกไซด์  ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอดและโรคมะเร็งอื่นๆ แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย 100% 

บางคนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทนบุหรี่ธรรมดา เพราะหวังจะเลิกบุหรี่ได้ หรือเชื่อว่ามีอันตรายน้อยกว่า ซึ่งในปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานการศึกษาที่ชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น ตามที่ผู้ผลิตได้กล่าวอ้าง และในต่างประเทศ เด็กวัยรุ่นที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน แต่ติดบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเกิดเป็นปัญหาใหม่ๆ ที่ต่างประเทศเองก็เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และยังไม่เปิดให้มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งประเทศไทยเองก็เช่นกัน

ข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า

1. เสพติดสารนิโคตินเหลวในบุหรี่ไฟฟ้า มีอำนาจเสพติดสูงเทียบเท่าเฮโรอีน  มีผลกระตุ้นสมอง หัวใจ ทำให้เส้นเลือดหดตัว ความดันโลหิตสูงขึ้น และเสี่ยงต่อโรคมะเร็งระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังมีสารอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย

2. ค่าใช้จ่ายเริ่มแรกสูงมาก
โดยจะเป็นค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่หลักพันนิดๆ จนถึงสามพัน ขึ้นอยู่กับการจัดชุดและคุณภาพของอุปกรณ์ด้วย 

3. เมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าแรกๆ อาจมีอาการแสบคอ
เมื่อใช้ไปได้ประมาณ 5 วัน ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเกิดความเคยชิน และสามารถสูบได้ตามปกติโดยไม่มีอาการแสบคอ

4. ความเคยชินกับการสูบบุหรี่แบบเดิมๆ
เมื่อเปลี่ยนมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้าอาจเกิดความรู้สึกแปลกๆ ดังนั้น ในช่วงแรกจึงอาจมีอาการอยากบุหรี่แบบเดิม จึงต้องใช้ความอดทนพอสมควรจนกว่าจะเกิดความเคยชินกับการสูบบุหรี่แบบใหม่

5. ต้องมีการบำรุงรักษาเป็นประจำ
เพื่อให้อุปกรณ์สูบสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและคุ้มค่า โดยส่วนใหญ่จะนิยมถอดมาล้างทุกๆ 2 - 3 อาทิตย์ และเปลี่ยนหัวอะตอมทุก 1 ถึง 2 เดือน นิโคตินเหลวที่บรรจุในขวดหากเก็บรักษาไม่ดีหรือเก็บไว้นานอาจจะมีเชื้อรา  ทำให้ผู้สูบรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเวลาสูบ

6. บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยลดการสูบบุหรี่ธรรมดาลงเลย
และอาจเพิ่มอัตราการสูบบุหรี่ให้คนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาสูบบุหรี่มากขึ้น